การรักษาสิวcan-canh-nhan-sac-my-nhan-co-khuon-mat-dep-nhat-the-gioi72

   ตั้งแต่วัยรุ่นจนโตเป็นผู้ใหญ่ ไม่มีใครไม่รู้จักสิว ลองได้เป็นขึ้นมาเมื่อไร เล่นเอาสูญเสียความมั่นใจกันเลยทีเดียว ทั้งยังทิ้งรอยแผลเป็นสิวไว้ให้ดูต่างหน้า บางคนถึงกับทำให้หน้าเป็นหลุมเป็นบ่อ ผิวหน้าไม่เรียบเนียน จนขาดความมั่นใจ  ในเมื่อเราเลี่ยงการเป็นสิวไม่ได้ เราก็ต้องมาทำความรู้จักธรรมชาติของสิวกัน

สาเหตุใดบ้างที่ทำให้เกิดสิว?

  • ฮอร์โมนแอนโดรเจน (androgens) ซึ่งเป็นตัวควบคุมการสร้างน้ำมัน พบมากในเพศชาย แต่ในเพศหญิงก็พบบ้างเช่นกัน โดยช่วงที่ฮอร์โมนแกว่งหรือมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ตอนมีรอบเดือน ตั้งครรภ์ ช่วงวัยรุ่น ช่วงเครียดๆ
  • กรรมพันธุ์ ของแต่ละบุคคล ซึ่งทำให้ผิวหนังแตกต่างกันออกไป ทั้งโครงสร้างของผิว การสร้างไขมัน ต่างๆเป็นต้น 
  • ชอบวุ่นวายกับใบหน้า เช่น ลูบ แคะ แกะ เกา อยู่บ่อยๆโดยไม่ได้ล้างมือ อาจนำพาแบคทีเรียมาทำให้เกิดสิว หรือสิวที่มีอยู่เกิดการอักเสบได้อีกด้วย
  • การขัดหน้าบ่อย ๆ อาจทำให้รูขุมขนตีบลง น้ำมันที่ควรจะออกมาก็ออกมาไม่ได้ ซึ่งอาจกลายเป็นสาเหตุให้เกิดสิว หรือสิวอักเสบได้
  • การล้างหน้าบ่อยเกินไป จะเป็นการกระตุ้นต่อมไขมันให้ทำงานผิดปกติ
  • พฤติกรรมบางอย่างที่รบกวนผิวหน้า เช่น เสยผม บีบจมูก คุยโทรศัพท์แนบแก้ม นั่งเท้าคางหรือแก้ม เป็นต้น
  • กิจวัตรประจำวันต่าง ๆ เช่น การไม่รักษาความสะอาด ไม่ล้างหน้าก่อนนอน หรือล้างหน้าและเครื่องสำอางไม่สะอาดเพียงพอ การใช้ผลิตภัณฑ์ปกปิดต่างๆ หรือเครื่องสำอางที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม การใช้ครีมหรือแป้งตลับที่อาจเป็นต้นเหตุของสิว การสวมหมวกหรือหมวกกันน็อคโดยไม่เคยซัก เป็นต้น
  • ล้างหน้าผิดวิธี เครื่องสำอางต่างๆหรือแม้แต่ครีมกันแดด ส่วนใหญ่แล้วไม่สามารถล้างออกได้หมดจดด้วยโฟมล้างหน้าเพียงอย่างดียว แม้จะเอามือลูบหน้าแล้วรู้สึกเกลี้ยงแล้วก็ตาม สุดท้ายสิ่งตกค้างที่ยังหลงเหลืออยู่ก็จะก่อให้เกิดการอุดตันจนทำให้สิวผุดขึ้นมา
  • ความมันบนใบหน้า ความมันเป็นสิ่งที่สิวชอบมากเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาจนทำให้หน้ามันแล้วเราก็ปล่อยไว้อย่างนั้น หรือล้างหน้าบ่อยเกินไป ก็จะทำให้มีปัญหาสิวตามมาแบบไม่รู้จบ
  • ความเครียด / นอนดึก เวลาเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนออกมา ซึ่งจะไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น ทำให้ยิ่งเป็นสิวมากขึ้น
  • มลภาวะและแสงแดด คนที่อยู่แต่ในห้องแอร์ ผิวจะแห้ง ส่วนคนที่หลีกเลี่ยงแสงแดดไม่พ้น ความร้อนจากแสงแดดจะทำให้น้ำในผิวระเหย ซึ่งมีผลทำให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น และอาจทำให้เกิดสิวในที่สุด
  • การสูบบุหรี่ ซึ่งการสูบบุหรี่จะทำให้เส้นเลือดตีบ ผิวหนังชั้นนอกจึงได้รับสารอาหารและออกซิเจนไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวไม่แข็งแรงพอ ไม่สามารถป้องกันตัวเองจากแบคทีเรียได้ดี จนทำให้เกิดสิวอุดตันทั้งหัวขาวและหัวดำในที่สุด
  • อาหารที่อาจเป็นต้นเหตุของการเกิดสิว เช่น สาหร่ายทะเล ผักขม และหอย ซึ่งมีไอโอดีนและฟลูออไรด์ ทำให้เป็นสิวมากขึ้น รวมไปถึงแป้ง น้ำตาล นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม
  • คนมีระบบน้ำเหลืองในร่างกายไม่ดี ให้หลีกเลี่ยง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารทะเล อาหารรสจัด และหน่อไม้
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสม เช่น ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมน้ำหอมและแอลกอฮอล์ หรือคนที่ชอบลองใช้ของใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ
  • ใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดสิว เช่น สารสกัดจากสาหร่าย, ลาโนลิน, โกโก้, ไขมะพร้าว, น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันข้าวโพด, น้ำมันถั่วเหลือง, น้ำมันจมูกข้าว, น้ำมันเมล็ดฝ้าย
  • อุปกรณ์แต่งหน้าที่หมักหมม พัฟ แปรงปัดแก้ม หมั่นล้างทำความสะอาดอยู่บ่อยๆ เพื่อป้องกันแบคทีเรีย
  • สิ่งประทินผม เช่น สีย้อมผอม แชมพูขจัดรังแค น้ำมันใส่ผม สเปรย์แต่งผม และเหงื่อจากหนังศีรษะ
  • ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ก็อาจทำให้บางคนเกิดเป็นสิวขึ้นบริเวณรอบปาก
  • ยาบางชนิด ยาบางตัวอาจมีสารที่ไปกระตุ้นให้ฮอร์โมนและเคมีในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เช่น ยาต้านอาการชัก ยาต้านเชื้อวัณโรค ยาที่มีส่วนประกอบอย่างคลอไรด์และไอโอดีน ยาที่มีผลต่อฮอร์โมนโดยตรง ยาปฏิชีวนะ ยาสเตียรอยด์ เป็นต้น

ประเภทของสิวมีอะไรบ้าง?

  • สิวอุดตัน (Comedones) มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ ฝังอยู่ใต้ผิว มีทั้งสิวหัวขาว(สิวหัวปิด) และสิวหัวดำ(สิวหัวเปิด)
  • สิวอักเสบ (Papules) เป็นสิวอุดตันที่อยู่ในระยะอักเสบ มีลักษณะบวมแดง อาจนูนหรือไม่นูน กดแล้วเจ็บเป็นไตแข็งอยู่ใต้ผิว มักทำให้เกิดรอยดำ รอยแดงสิว ที่รักษายากตามมา
  • สิวหัวหนอง (Pustules) มีลักษณะนูนแดง อักเสบ และมีหนองอยู่ภายใน มักจะมีแผลเป็นหรือหลุมสิวได้
  • สิวหัวช้าง (Nodules) มักมีขนาดใหญ่ พบในผู้ที่เป็นสิวค่อนข้างรุนแรง ภายในบรรจุหนองขนาดใหญ่มากๆได้
  • สิวเสี้ยน มีลักษณะเป็นจุดๆ หรือหนามสีดำน้ำตาล โดยมากมักอยู่ที่จมูก ซึ่งเป็นบริเวณที่รูขุมขนกว้าง
  • สิวผด มีลักษณะคล้ายกับผดผื่นขนาดเล็ก เป็นตุ่มเม็ดเล็กๆใสๆ จะแสดงอาการมากในช่วงบ่ายๆที่มีอากาศร้อน โดยจะเห็นเป็นผื่นสีแดงขึ้นอย่างชัดเจน
  • สิวหิน สิวข้าวสาร ตุ่มไขมัน มีลักษณะเป็นตุ่มขาวๆเล็กๆอยู่ใต้ผิว มักอยู่บริเวณที่มีไขมันมาก เช่น ใต้ตา คาง

 

วิธีการรักษาสิวด้วยตัวเอง

  • ลองสังเกตตัวเอง ว่าเรามักจะเป็นสิวตอนไหน หน้าร้อนหรือหน้าฝน ช่วงนั้นไปทำอะไรที่ผิดปกติไปจากเดิมหรือเปล่า เช่น เปลี่ยนผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิว เปลี่ยนแชมพู เป็นต้น เมื่อเราสังเกตตัวเองจนทราบแล้วว่า ช่วงไหนที่สิวถามหาเรา ก็ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ หรือเลี่ยงผลิตภัณฑ์นั้นๆซะ
  • รักษาก่อนบำรุง อย่าเพิ่งคิดบำรุงผิวในช่วงนี้ ให้หันมารักษาสิวให้หายก่อน ในช่วงที่เป็นสิวผิวเราจะระคายเคืองได้ง่าย
  • ลดความมันบนใบหน้า คุณควรจะล้างหน้าเพื่อเอาความมันออกซะบ้าง แต่อย่าล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะจะยิ่งไปกระตุ้นการเกิดสิวได้
  • หยุดซาวน่าและสตรีม เพราะมันจะทำให้ผิวทั้งร้อนและชื้น สิวที่มีก็จะเห่อขึ้น รูขุมขนกว้างขึ้น บริเวณที่มีแนวโน้มจะเป็นสิวก็อาจเกิดสิวขึ้นมาได้อย่างคาดไม่ถึง แต่ให้หันมาออกกำลังกายแทนจะดีกว่า
  • ล้างหน้าให้ถูกวิธี ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง เราควรจะล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวเพียงวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น แต่หากหน้ามันมากจริงๆ ก็อาจไม่เกินวันละ 3 ครั้ง เวลาล้างต้องล้างให้สะอาดหมดจดจนแน่ใจว่าไม่เหลือสิ่งสกปรกอยู่บนใบหน้า (แต่อย่าล้างบ่อย เพราะจะยิ่งทำให้หน้ามันมากขึ้น)
  • ดื่มน้ำเพื่อล้างพิษ การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยทำให้เซลล์ต่าง ๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และน้ำยังเป็นตัวช่วยในการนำสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายให้ถูกขับออกมาด้วย
  • ควรรับประทานผักและผลไม้ ที่มีวิตามินซีและอี เพื่อช่วยเสริมสร้างสุขภาพผิวให้แข็งแรง สำหรับคนที่โดนสิวบุกมากอาจผสมน้ำมะนาวลงในน้ำแก้วแรกของวัน วิธีนี้พบว่าใช้ได้ผลในหลายคน ในการช่วยล้างพิษได้อย่างหมดจด
  • กำจัดความเครียด พยายามทำจิตใจให้แจ่มใสอยู่เสมอ เพราะเมื่อเราเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนตัวที่สามารถไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากขึ้น
  • นอนหลับให้เพียงพอ การนอนหลับนับเป็นการพักผ่อนที่ดีที่สุด ขณะหลับร่างกายจะหลั่งสารโกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนนี้จะช่วยซ่อมแซมร่างกาย ช่วยทำให้ผิวหนังส่วนที่สึกหรอรวมถึงแผลที่เป็นอยู่ ให้หายไวขึ้น ส่งผลกับผิวหน้าและผิวกายของเราโดยตรง
  • หลีกเลี่ยงแสงแดด ปกป้องผิวตัวเองจากแสงแดดด้วยการทาครีมกันแดดเป็นประจำ ใส่แว่นกันแดดเพื่อถนอมตา สวมใส่เสื้อผ้าที่ปกปิดผิว และหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความร้อนและความชื้นสูง เพราะนอกจากจะเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิวแล้ว มันยังเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยและสีผิวที่ดำคล้ำได้อีกด้วย
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับสภาพผิว เวลาเลือกใช้ นอกจากจะให้มาช่วยแก้ไขและบำรุงผิวหน้าแล้วยังต้องเชื่อมั่นได้ว่าผลิตภัณฑ์เหล่านั้นจะไม่เอาสิวมาฝากเราด้วย

 

แต่หากยังไม่สามารถรักษาสิวให้หายเองได้ แนะนำให้ลองไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์จะช่วยหาวิธีรักษาได้อย่างถูกต้อง และถูกประเภทของสิว และควรปฏิบัติต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดถ้าอยากหาย

สิวเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่ไม่มีสูตรตายตัวในการรักษา  การเลือกวิธีรักษา แพทย์จะต้องคำนึงถึงประเภทของสิว ความรุนแรง และความเหมาะสมต่อผิวของแต่ละคน รวมถึงปัจจัยอื่นๆของผู้เป็นสิวร่วมด้วย วิธีการรักษามีด้วยกันหลายอย่าง ได้แก่

  • การใช้กลุ่มยาอนุพันธุ์ของวิตามินเอ 
  • การใช้กลุ่มยาปฏิชีวนะ 
  • การใช้กลุ่มยาฮอร์โมน 
  • การกดสิว 
  • การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ 
  • การใช้เลเซอร์/แสง

 

สาขาชลบุรี 038-282197  , สาขาพัทยาสาย 3 038-415154

เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 12.00-21.00 น.